Review⎜กันแดด ANESSA สูตรสีทองในตำนาน Vs. สูตรใหม่สำหรับผิวแพ้ง่ายและเด็ก

Posted on

สวัสดีค่า Blog วันนี้ทรายขอนำเสนอเรื่องของกันแดด (Sunscreen) ค่า

อย่างที่เคยพูดมาตลอดหลายๆปีว่าทรายเป็นโรคจิต ไม่ค่อยชอบทากันแดดเวลาที่แต่งหน้า

รวมไปถึงวันปกติถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็จะไม่ยอมทากันแดด เพราะทาแล้วชอบมีผดผื่นขึ้นหน้า

แต่ถ้าจำเป็นต้องทา จะมีแค่ยี่ห้อเดียวที่ทรายหยิบมาใช้ตลอด

ก็คือกันแดดยี่ห้อ ANESSA ขวดสีทองในเครือของ Shiseido นั่นเอง


ใครที่ตาม Blog มาหลายปีก็คงจะได้เห็นผ่านตากันมาบ้างนะคะ แต่ทรายไม่เคยเขียนถึงจริงจัง

นั่นเพราะว่ารู้สึกว่าตัวเองใช้จนเหมือนของสามัญประจำบ้าน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

แต่วันนี้มีค่ะ ทรายได้รับข่าวและโปรดักส์จากทางแบรนด์ว่ามีการออกโปรดักส์ใหม่เพิ่มขึ้นมา

เป็นกันแดดสูตรสำหรับคนผิวแพ้ง่าย แม้แต่เด็กก็ใช้ได้ ซึ่งน่าจะเหมาะกับทราย (หูยรู้จริง?)

ก็เลยถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังถึงความประทับใจในกันแดด ANESSA ที่ทรายมีมายาวนาน

ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ให้ได้ฟังนะคะ และก็เอาโปรดักส์ใหม่มาให้ได้ดูกันด้วย


 

ตอนที่ทรายรู้จักกับ ANESSA ครั้งแรก ทรายยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลยค่ะ แม่เป็นคนเอามาให้ใช้เจ้าสีทองนี่เลย

คือแม่ทรายอยู่ประเทศญี่ปุ่น ทีนี้เวลามีอะไรอะไรเป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่น แม่ก็จะชอบเอามาให้ใช้

พวกครีมทามือเอย กันแดดเอย โลชั่นเอย ความใช้จนติด บอกตรงๆว่ารับอิทธิพลมาจากแม่เต็มๆค่ะ

แม่เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามมากๆ กันแดดห้ามขาด โลชั่นไม่ทาไม่ได้

อันที่จริงทรายเริ่มทากันแดดตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมต้นนะคะ เรียกได้ว่าในช่วงอายุนั้นก็ถือว่าเริ่มดูแลตัวเองเร็วกว่าเพื่อน

โชคดีในความบังคับใช้ของแม่ เค้าบังคับเราในสิ่งที่สมควร เลยทำให้ตอนนี้(ที่ขี้เกียจใช้ = =)

ทรายยังได้กินบุญเก่าจากช่วงเด็กๆ ล่าสุดไปตรวจผิวหน้ามาเมื่อปลายปีที่แล้ว

ปัญหาเรื่องกระฝ้าน้อยมากจนแทบไม่มีเลยค่ะ #กราบแม่

สำหรับเพื่อนๆที่ละเลยกันแดดในวัยเด็ก เอาเป็นว่าไม่เป็นไรเนาะ เรามาเริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วกัน

 

(No.1 Sunscreen in JAPAN 16 ปีซ้อน ทำได้ยังไง!!!)

2รูปนี้จะเห็นว่าต่างจากรูปที่ทรายถ่ายเอง อันนี้คือแพ็คเกจของรุ่นสีทองสูตรออริจินอลในปัจจุบันนะคะ

ในรูปประกอบบทความของทรายเป็นแพ็คเกจเก่าที่ทรายซื้อตุนไว้ใช้ค่า เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าปลอมหรือเปล่า

แต่ถ้าซื้อตามร้านค้าที่ทรายแจ้งไว้ด้านล่าง ซึ่งเป็น Distributor โดยตรงก็ไม่มีปลอมแน่นอนค่า

 

 ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ทรายพยายามจะทากันแดดให้บ่อยขึ้นทั้งหน้าและตัว

เนื่องจากว่าทรายมีเดินทางบ่อย และหลายๆครั้งเป็นการเดินทางที่ต้องมีกิจกรรมกลางแจ้ง

คือปกติสถานการณ์แบบนี้ทรายทากันแดดแน่นอนอยู่แล้ว ทีนี้พอโดนบีบให้ทาบ่อยขึ้น

และผิวก็แข็งแรงขึ้นจากเมื่อก่อนด้วย มันก็เลยทำให้พฤติกรรมเก่ากลับมาลูปเดิมๆค่ะ

คือ เริ่มใช้ได้เหมือนสมัยเด็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะวัย30อย่างทราย คือ ไม่ควรละเลยกันแดดแล้ว

ทรายไม่รู้นะว่าที่ผ่านมาผิวตัวเองเกิดอะไร ทำไมถึงใช้กันแดดแล้วมีผื่นขึ้นตลอด ทั้งที่ช่วงวัยรุ่นต้นๆไม่เป็น

มันเพิ่งมาพังตอนช่วง 20 กลางๆนี่เองค่ะ เลยทำให้ห่างหายจากกันแดดไปเลย แบบใช้อะไรก็กลัวไปหมด

ถ้าใครมีปัญหาแบบทราย ลองสังเกตตัวเองดูนะคะ ทรายเดาว่ามันเกิดจากสภาวะร่างกาย

ที่ไม่แข็งแรง อาจจะทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อะไรก็ตามที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ผิวอ่อนแอลง

ถ้าเราฟื้นร่างได้ อะไรๆก็จะกลับมาดีขึ้น เรื่องผิวกับเรื่องสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องไกลกันนะคะ มันสัมพันธ์กันค่ะ

 


อ่ะเข้าเรื่องแล้วกัน ทรายไม่ค่อยได้เขียนเล่าอะไรแบบนี้นานแล้วเหมือนคนอัดอั้น อยากเขียนเยอะๆ

อ่านเป็นเพื่อนทรายหน่อยนะคะ อยากคุยด้วยจริงๆ เรามาดูโปรดักส์ใหม่ของ Anessa กันค่ะ

 

 

เค้าออกมา 2 สูตรนะคะ สีทองอ่อนกับสีขาว ทั้งคู่เป็นสูตรที่เหมาะกับคนผิวอ่อนแอระคายเคืองง่าย

รวมไปถึงเด็กๆอายุ 1 ปีขึ้นไปสามารถใช้ได้ค่ะ อันนี้มีการรับรองจากญี่ปุ่นนะคะว่าใช้ได้ ไม่ใช่ว่าเขียนขึ้นมาเอง

ต่อไปนี้ถ้าเอาจำง่ายๆเราต้องแยกจำ 2 ขวดนี้เป็นสูตร Sensitive Skin นะคะ จะมีคำว่า Mild ตามหลังบนชื่อ

ไม่งั้นจะไปสับสนกับรุ่น Original ของเค้า เพราะคุณสมบัติเหมือนกันแต่ต่างกันที่เหมาะกับลักษณะผิวแบบไหนค่า

 

 

 

 

อย่างที่เพื่อนๆเห็นนะคะ ว่าอ่านผ่านๆนี่ทั้ง 2 สูตรใหม่คล้ายกันมากๆ และมีเทคโนโลยี Aqua Booster

ที่ทำให้คงประสิทธิภาพกันแดดได้สูงสุดในทุกสภาวะเหมือนกันอีก สิ่งที่เห็นว่าต่างกันชัดๆคงเป็นเรื่องของค่า SPF

ประสิทธิภาพในการกันน้ำ และเนื้อของกันแดดที่ต่างกัน

 

 

 

ทรายไม่ใช่คนที่วิเคราะห์ส่วนผสมได้นะคะ ดังนั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบอะไรให้เพื่อนๆดูได้

อาศัยความชอบและความรู้สึกจากที่ได้ลองใช้ล้วนๆ คือทรายเป็นแฟนรุ่น Perfect UV ตัวออริจินอลอยู่แล้ว

จึงรู้สึกว่า ตัวสีทองสูตร Mild นี่ให้ความเหมือนกับสีทอง Original มากกก

ก็มันเนื้อเดียวกันเนาะ แถมยังกันน้ำสุดๆเหมือนกันอีก

เพียงแต่เวลาใช้ระหว่างวันไม่รู้สึกว่าหน้ามีน้ำมันเร็วเท่าตัวเก่า (ตัวเก่ามีแอลกอฮอล์ค่ะ)

และทรายใช้ติดต่อกันหลายครั้งไม่มีผื่นขึ้น YEAH!!!!


สำหรับตัวสีขาวสูตร Mild นี่ บอกตรงๆว่าหลงรัก เพราะเนื้อมันสบายผิวมาก

ความเป็น Essence มันนุ่มชุ่มชื้น  ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิว แต่ได้ค่า SPF ที่น้อยกว่า และกันน้ำได้ไม่ดีเท่าที่สีทอง

แต่ก็นะ ทรายว่าถ้าไม่ใช่วันที่แบบ Extreme มาก อันนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะจะใช้ในชีวิตประจำวันทุกวัน

ความจริงทรายแอบชอบเอาสีทองมาทาแขนขา แล้วเอาสีขาวมาทาหน้า

เพราะสีขาวมันแอบเหมือนน้ำนมชอบฟีลนี้บนผิว ทรายผิวแห้งชอบให้รู้สึกถูกโอบอุ้มชุ่มชื้นแฮ่ะๆ

ทั้ง 2 สูตรใหม่นี้ ถ้าเทียบการเซ็ตตัวบนผิวแล้วอาจจะช้ากว่ารุ่นเก่าอื่นๆนะคะ

เพราะว่าไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่ะ รวมถึงไม่มีน้ำหอม มิเนอรัลออยล์ และพาราเบนด้วยค่ะ

คนที่ระคายเคืองต่อพวกนี้ง่ายน่าจะอุ่นใจได้ในระดับนึงเลย

 

 

อีกอย่างคือ ตัวสีทองสูตร Mild นี้ เนื้อของกันแดดสีออกขาวชัดเจนกว่าตัวสีทองสูตร Original ค่ะ (เห็นได้ในรูป)

แต่ๆๆๆๆๆๆๆ มันวอกบนแฟรชน้อยมากทั้งที่ค่า SPF สูงขนาดนี้

คือในการทากันแดดของผู้หญิงอย่างเรา เรื่องที่กังวลสุดคือ การทากันแดดไปงานแล้วเจอตากล้องสาดแฟรช

โอ้โหมายก้อชชช เหมือนโดนสวรรค์สาปแช่งให้ตกนรกทั้งเป็น? ในฐานะที่ทรายอยู่ตรงนี้

สิ่งที่ทำประจำคือการเลี่ยงโปรดักส์ที่ใส่สารกันแดดมาสูงๆ ค่า SPF สูงๆถ้าเป็นงานเย็นนี่ขอบายเลยกลัว

แต่ว่าอันที่จริงมันไม่ใช่สิ่งที่ดีนะคะ เพราะในแฟรช ในไฟ ในสปอร์ตไลต์มันก็มีรังสีที่เราไม่ควรละเลยเช่นกัน

ทรายอยากรู้อ่ะ ว่าถ้าทรายจะลองทากันแดดไปงานแล้วเจอแฟรชแบบที่คนอื่นเค้าวอกๆกัน

ตัวนี้จะรอดไหม ทรายก็เลยลองทำบ้าง 55555 ปังหรือแป้ก เดี๋ยวรู้เรื่อง ?

 

 

 

อันนี้ผิวทรายที่ใช้กันแดดสูตรใหม่ทั้ง 2 ตัวลงก่อนที่จะแต่งหน้าทับนะคะ

ทรายลงสูตร Essence สีขาว (Mild) ด้านซ้าย และสูตร Perfect UV สีทอง (Mild) ที่ด้านขวาของหน้าค่ะ

และนี่คือภาพที่ใช้ถ่ายแบบเปิดแฟรชด้วยกล้องไลก้านะ

 

 

ทาด้าาาาาาา ~ เดชะบุญที่กันแดด 2 ตัวนี้ไม่ทำให้เราดูหลอน ต่อไปนี้ไปงานก็ไม่ต้องนอยด์มากนะคะ

ทากันแดดบ้างก็ไม่น่าจะเป็นอะไร (บอกตัวเอง5555)

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจกันแดด ANESSA ไม่ต้องไปฝากหิ้วแล้วนะคะ มีขายในไทยนานแล้วค่ะ

หาซื้อได้ที่ร้าน Watsons, EVEANDBOY, Tsuruha, Matsumoto Kiyoshi และ Boots ค่า

ราคารุ่น Original จะอยู่ที่ 859 บาทนะคะ ส่วนรุ่น Mild สำหรับผิว Sensitive จะอยู่ที่ 950 บาท

ไม่ต่างจากญี่ปุ่นเลยจ้า

 



Disclaimer : Sponsored Content by ANESSA

Information : https://www.facebook.com/AnessaThailand/


Facebook Comments

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.